สายกราวด์ (Ground หรือ Earth) ในระบบโซลาร์เซลล์ (Solar PV System) มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว และลดแรงดันเกินที่อาจเกิดจากฟ้าผ่าหรือไฟฟ้าสถิต โดยสายกราวด์จะเดินไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ ดังนี้:
1. โครงสร้างของแผงโซลาร์ (Solar Panel Frame)
- โครงแผงมักเป็นโลหะ เช่น อะลูมิเนียม ซึ่งต้องต่อกราวด์เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตหรือไฟรั่วจากแผง
- ใช้สายทองแดงเดินเชื่อมจุดกราวด์ระหว่างแผงแต่ละแผง แล้วต่อไปยังระบบหลัก
2. โครงเหล็กหรือขาตั้ง (Mounting Structure)
- โครงเหล็กที่ยึดแผงไว้กับพื้นหรือหลังคาต้องต่อสายกราวด์ลงดินด้วย เพื่อป้องกันไฟรั่วจากการช็อต
3. อินเวอร์เตอร์ (Inverter)
- อินเวอร์เตอร์มีช่อง Ground ให้เชื่อมต่อกับสายดิน (Earth)
- อาจมีการต่อกราวด์ทั้งฝั่ง DC และ AC ขึ้นอยู่กับชนิดของระบบ
4. กล่องคอนโทรล / ตู้รวมสาย (Combiner Box / AC-DC Box)
- มี Busbar หรือจุดรวม Ground สำหรับสายจากแผงและอินเวอร์เตอร์
- เดินสายกราวด์จากกล่องเหล่านี้ลงดิน
5. เดินเข้าสายดินหลัก (Grounding Rod หรือ Grounding System)
- จุดสุดท้ายคือ “หลักดิน” ซึ่งเป็นแท่งทองแดงหรือแผ่นทองแดงฝังดินลึกอย่างน้อย 2.4 เมตร
- ความต้านทานดินควรน้อยกว่า 5 โอห์ม (แนะนำไม่เกิน 1 โอห์มสำหรับระบบใหญ่มาก)
Solarleaf-Energy
- สินค้ามีคุณภาพและได้มาตรฐาน
- ทีมงานออกแบบและติดตั้งมืออาชีพและมีประสบการณ์สูง
- บริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
- ยื่นขออนุญาต ฟรี
- ประเมินหน้างาน ฟรี
- ให้คำปรึกษา ฟรี
การรับประกัน
- งานติดตั้ง 2 ปี
- ล้างแผงฟรี 2 ครั้ง พร้อมทั้งตรวจเช็คอุปกรณ์ด้วยเครื่องมือทันสมัย
- Inverter รับประกัน 10 ปี
- แผงโซลาร์เซลล์รับประกัน 30 ปี
สอบถามข้อมูล
Line : @solarleaf-energy
Tel : 089-999-9479
Website: www.solarleaf-energy.com
Facebook: Solar Leaf Energy